Natural Iceland & Denmark Surprise! 9 Days

พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสาร ขาออกชั้นที่ 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแถว D เจ้าหน้าที่ เวิลด์เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน

อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

ถึง ท่าอากาศยานกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพื่อเปลี่ยนเครื่องเป็นสายการบินภายในประเทศ
หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ แล้วนำท่านเช็คอินสายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์

โดยสายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK4787 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเรคยาวิค ประเทศไอซ์แลนด์

ถึงท่าอากาศยานเคฟลาวิค กรุงเรคยาวิค ประเทศไอซ์แลนด์ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว
นำท่านเดินทางสู่ บูลลากูน บ่อน้ำแร่ ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นที่โด่งดังมากโดยเฉพาะเรื่อง การบำรุงผิว การรักษาผิวพรรณ และเพื่อสุขภาพ ซึ่งบ่อน้ำแร่แห่งนี้ได้รับความร้อนทั้งหมดมาจากใต้พิภพ

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร อิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถตามอัธยาศัยด้วยการแช่น้ำในบูลลากูนแห่งนี้
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เรคยาวิค ดินแดนที่ Ingólfr Arnarson ชาวนอร์วีเจี้ยนได้ล่องเรือมาแล้วเผอิญค้นพบแผ่นดินไอซ์แลนด์นี้เมื่อปีค.ศ. 870 จนกระทั่งเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 บนดินแดนแห่งนี้ก็ค่อย ๆ ได้รับการพัฒนาให้เจริญอย่างต่อเนื่อง จากนั้น หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไอซ์แลนด์ก็ได้ประกาศอิสรภาพเป็นเอกราชแยกตัวจากประเทศเดนมาร์ก และเรคยาวิคก็ถูกสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงของประเทศ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Foss Reykjavik หรือในระดับเดียวกัน

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ ของประเทศไอซ์แลนด์ นับเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวทุกคน เมื่อมาเที่ยวที่ประเทศไอซ์แลนด์แล้วจะต้องมาเยือน ณ ที่แห่งนี้ อุทยานแห่งชาติ
ซิงเควลลิร์ เป็นที่ประชุมรัฐสภาแห่งแรกของประเทศ ตั้งแต่ปีค.ศ. 930 และใช้เรื่อยจนถึงปีค.ศ 1789 อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ ของประเทศ ต่อมาในปีค.ศ. 1930 ได้รับการสงวนให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2004

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านชม น้ำพุร้อนกีเซอร์ บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ที่น้ำมีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 400 องศาเซลเซียส จะปะทุพวยพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศสูงกว่า 200 เมตรในทุก ๆ 5 ถึง 10 นาที

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกกัลฟอส หรือน้ำตกทองคำ น้ำตกที่มีผู้เคยกล่าวไว้ว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ น้ำตกนี้เป็นน้ำที่ละลายมาจากภูเขาน้ำแข็งฮาวิต้าไหลลงมาจากระดับความสูงที่ 32 เมตร แบ่งเป็น 2 ระดับแบบขั้นบันได มีความลึกกว่า 70 เมตร และมีความยาวกว่า 2.5 กิโลเมตร ทุกวินาทีมีน้ำไหลผ่านกว่า 140 ลูกบาศก์เมตร นับเป็นน้ำตกที่มีระดับความแรงน้ำเป็นอันดับสองของทวีปยุโรป

แล้วนำท่านเดินทางสู่ เฮลา เพื่อเข้าโรงแรมที่พัก

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Stracta หรือ ในระดับเดียวกัน

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชม น้ำตกเซลจาแลนสฟอส์ส น้ำตกที่มีความสูง 60 เมตร หรือประมาณ 200 ฟุต น้ำตกแห่งนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มของช่างภาพ โดยท่านสามารถเห็นรูปน้ำตกเซลจาแลนสฟอส์สได้อย่างแพร่หลายตามปฏิทิน และหนังสืออีกมากมาย

แล้วนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกสโกกาฟอส หนึ่งในน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ของประเทศไอซ์แลนด์ มีความกว้าง 25 เมตร น้ำลงไหลลงมาจากระดับความสูง 60 เมตร ในวันที่อากาศแจ่มใส ท่านยังอาจจะสามารถเห็นสายรุ้งได้อีกด้วย

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เดียโลลีเอ้ ชมแหลมหินที่มีความสูงประมาณ 120 เมตร ยื่นตัวยาวออกไปที่คาบสมุทรทางตอนใต้ของประเทศ หินเหล่านี้เกิดจากจากกัดเซาะตามธรรมชาติของลาวา และน้ำทะเลทำให้หินตรงกลางเป็นรูมีลักษณะคล้ายถ้ำ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่ไกลสุดลูกหูลูกตาของพื้นมหาสมุทรสีฟ้าอันสวยงาม

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาน้ำแข็งมิดรัลสโจคูล ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 695 ตารางกิโลเมตร ทางด้านใต้ของภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟกาทลา ซึ่งเมื่อปีค.ศ. 1918 ได้เกิดการปะทุขึ้น ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงอีกด้วย

แล้วนำท่านสัมผัสประสบการณ์กับการขับ สโนว์โมบิล ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน พร้อมชมวิวทิวทัศน์ในบริเวณ ภูเขาน้ำแข็งมิดรัลสโจคูล

แล้วนำท่านเดินทางกลับสู่ เฮลา

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านดื่มด่ำและเปิดประสบการณ์ทางธรรมชาติ กับการชมปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือแสงออโรร่า ที่จะปรากฏให้เห็นบริเวณเหนือท้องฟ้ายามค่ำคืนของดินแดนในแถบอาร์กติกเท่านั้น
(หมายเหตุ กิจกรรมการชมแสงเหนือ อาจถูกยกเลิกได้ หากสภาพอากาศไม่อำนวย)

พักค้างแรม ณ โรงแรม Stracta หรือ ในระดับเดียวกัน

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เคอริท ทะเลสาบในปากปล่องภูเขาไฟที่มีอายุกว่า 3,000 ปี

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ เรคยาวิค
แล้วนำท่านชม โบสถ์ฮอล์ลกริมโบสถ์นิกายลูเธอรัน ที่มีความสูงกว่า 74.5 เมตร นับเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงเป็นอันดับหกของประเทศอีกด้วย

แล้วพาท่านชม เพอร์ลัน ตึกที่มีสถาปัตยกรรมและรูปทรงอันแสนสะดุดตาตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอีกด้วย โดยเพอร์ลันนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1988 ทางด้านบนเป็นหลังคาแก้วทรงครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่เก็บน้ำร้อนที่ได้จากธรรมชาติและนำมาแปลงให้เป็นพลังงานความร้อนใช้ภายในเมือง

แล้วอิสระให้ท่านเดินเล่นภายในตัวเมืองตามอัธยาศัย

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Foss Reykjavik หรือในระดับเดียวกัน

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานเคฟลาวิค

อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัย ภายในท่าอากาศยาน
โดยท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทฯ จัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 25 Euro

โดยสายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SK596 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

ถึงท่าอากาศยาน กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง
แล้วนำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับเงือกน้อยลิตเติ้ลเมอร์เมด สัญลักษณ์ของเมืองโคเปนเฮเกน ตำนานความรักของเงือกน้อย ที่ยอมเสียทุกสิ่งเพื่อเจ้าชายที่แสนรัก ผลงานชิ้นเอกของศิลปินชาวเดนมาร์ก เอ็ดวาร์ด อีริคเซน ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงจินตนาการของ
ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน กวีเอกผู้สร้างสรรค์นิทาน Little Mermaid ที่ได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลก และ น้ำพุเกฟิออน ที่มีตำนานเล่าขานกันว่า เทพเจ้าได้ดลบันดาลให้ราชินีเกฟิออนกอบกู้บ้านเมือง พระนางจึงได้แปลงร่างลูกชายทั้ง 4 คน ให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ ซึ่งก็คือ ประเทศเดนมาร์ก ในปัจจุบันนั่นเอง

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Admiral หรือในระดับเดียวกัน

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่าน ล่องเรือ ชมทิวทัศน์ของกรุงโคเปนเฮเกนไปตามลำคลอง ให้ท่านผ่านชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ พร้อมชมความงดงามของเมืองตลอด 2 ข้างทาง เช่น ปราสาท ย่านเมืองเก่า ตลอดจนอาคารที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เป็นต้น

แล้วนำท่านชมทางด้านนอกของ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก พระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก เป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก และตกแต่งภายในด้วยศิลปะแบบร็อคโคโค่ และมีอนุสาวรีย์ของคิงเฟดเดอริคที่ 4 ผู้ก่อตั้งอามาเลียนบอร์ก อยู่ใจกลางลานหน้าพระราชวังทรงแปดเหลี่ยม อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปภายนอกพระราชวังตามอัธยาศัย

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านชม ซิตี้ฮอลล์ อาคารรัฐบาลใจกลางเมืองโคเปนเฮเกนสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1905 ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Martin Nyrop ด้านหน้าประดับด้วยรูปปั้นทองของ Absalon อดีตนักปกครองของเดนมาร์ก และยังมีหอนาฬิกาที่สูงถึง 105.6 เมตร ซึ่งนับเป็นอาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโคเปนเฮเกน

แล้วนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง Stroget แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโคเปนเฮเกน และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออกของโคเปนเฮเกน รวม 4 ถนนหลักเข้าด้วยกัน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังหลากหลายยี่ห้อตามอัธยาศัยตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็น Prada, Louis Vuitton, Chanel, Mulbery, Max Mara และอื่นๆอีกมากมาย

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Admiral หรือในระดับเดียวกัน

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ทอรวูเฮเลอเน่ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน ที่มีผู้มาเยือนกว่า 60,000 คนต่อสัปดาห์ ภายในประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 60 ร้านค้า อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อ หรือลิ้มลองอาหารพื้นเมืองภายในตลาดแห่งนี้ตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานกรุงโคเปนเฮเกน

อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัย ภายในท่าอากาศยาน

โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ