ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง

Lofoten เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล สวรรค์ของช่างภาพและนักตกปลา

ชมทิวทัศน์สุดอลังการของหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์

ล่องเรือ  Rembrandt van Rijn สู่อ่าวแฮมน์ไอเซ็นญา (Hamn I Senja)ไปยังทรอมโซ (Tromsø)

อาจได้พบกับ “วาฬ” สัตว์นักล่าพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกหลากหลายสายพันธุ์

นั่งสโนว์โมบิล และไปชมการค้นหาและลิ้มลองปูยักษ์ที่ King crab safari

วันแรก อา. 3 มี.ค. 62 
กรุงเทพฯ

21.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D

เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

00.20 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG945 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

พักค้างแรมบนเครื่องบิน

วันที่สอง จ. 4 มี.ค. 62
ออสโล – หมู่เกาะลอฟโฟเทน – มอคคาเนส – หมู่บ้าน Å – หมู่บ้านเรนเน่

เช้า    อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม.

06.50 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

10.55 น.  โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF 800 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน เล็กเนส

อาหารกลางวัน บริการบนเครื่องบิน

 

13.20 น.  ถึงท่าอากาศยานเล็กเนส หมู่เกาะลอฟโฟเทน (Lofoten Island) เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล ซึ่งมีหมู่บ้านชาวประมง ธรรมชาติตระการตา และเป็นสวรรค์ของนักตกปลา เกาะลอฟโฟเทนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ บริเวณเหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล เป็นถิ่นเก่าแก่ของไวกิ้ง มีอากาศดีด้วยกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมที่ไหลผ่าน

มีเกาะสำคัญคือ เอาสโตไก (Austvågøya) อิมไซ (Gimsøy ) เวสโตไก (Vestvågøya ) ฟลอคสตอได (Flakstadøy) มุสเคอ เนสเซอยา (Moskenesøya) วาไร (Værøy) และโรสต์ (Røst) โดยมีเมืองสำคัญคือ สโววาร์ (Svolvær) เป็นศูนย์กลางการประมงและการค้ามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งหากมาถึงที่เกาะลอฟโฟเทนแห่งนี้แล้วอย่าพลาดชิมปลาค็อดลอฟโฟเทน ที่อร่อยและโด่งดังไปทั่วประเทศนอร์เวย์

หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่าน เดินทางสู่ตอนใต้ ของเกาะที่เมืองมอคคาเนส อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน Å

นำท่านชมหมู่บ้าน Å ที่ได้ ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดบนหมู่เกาะลอฟโฟเทนและเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ถนน King Olav’s ถนนหลวงสายหลักเดียวของหมู่เกาะลอฟโฟเทน

จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านชาวประมงเรนเน่ (Reine) บนเกาะมุสเคอเนสเซอยา (Moskenesøya)ซึ่งอยู่ทางใต้ของหมู่เกาะลอฟโฟเทน อันได้ ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มี Landscape ในการถ่ายภาพวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะลอฟโฟเทน ระหว่างทางแวะเก็บภาพสวยๆที่ สะพานHammroey bridge

ค่ำ  อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักค้างแรม ณ LIVE LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สาม อ. 5 มี.ค. 62
เรนเน่ – หาดแรมเบิร์จ – นัสฟยอร์ด – พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านแวะถ่ายภาพที่ หาดแรมเบิร์จ ซึ่งความงามของหาดทรายสีขาวที่มีน้ำทะเลสีฟ้าและภูเขาที่สวยงามเป็นฉากหลัง จากนั้นนำท่านสู่ เมืองนัสฟยอร์ด (Nusfjord) อีกหนึ่ง เมืองเล็กๆน่ารักๆแห่งหมู่เกาะลอฟโฟเทน ให้ท่านได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันแปลกตา ภูเขาสลับแม่น้ำ และทะเลสาบที่ สะท้อนภาพเทือกเขาบนผืนน้ำ

นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดียิ่งอีกแห่งของ นอร์เวย์

หมู่บ้านแห่งนี้มีการรังสรรค์หมู่บ้านหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง เขียว และยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้ อย่างดียิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย หรือจะนั่งเล่น     จิบกาแฟ ชื่นชมกับธรรมชาติของเมืองนี้ นอกจากนี้ เมืองนัสฟยอร์ดยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย

กลางวัน  อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (Lofotr Viking Museum) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะลอฟโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เพื่อแสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งที่จัดแสดงไว้อย่างมากมาย

ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้งในอดีต แล้วอิสระให้ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่ภัตตาคาร

ค่ำ  อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นของชาวไวกิ้ง

พักค้างแรม ณ โรงแรม LIVE LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สี่ พ. 6 มี.ค. 62
จิมซูยา – เฮนนิ่งแสวร์ – สโวแวร์ (ล่องเรือ)

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้าพันธุ์ไอซ์แลนด์ บริเวณชายหาด ซึ่งตามประวัติแล้ว ชาวไวกิ้งเดินทางมาที่ดินแดนแห่งนี้โดยม้าของพวกเขา แล้วนำท่านเดินทางสู่ เฮนนิ่งแสวร์ (Henningsvaer) เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก ซึ่ง เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาแวะเวียน และยังได้ชื่อว่าเป็น Venice Of Lofoten

ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือ บ้านชาวประมงสีแดง (Rorbuer) ตั้งอยู่ริมทะเล และมีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาวถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย อิสระท่านเดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศตามอัธยาศัย

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สโวแวร์ (Svolvær) เมืองศูนย์กลางเขตชุมชน Vågan ตั้งอยู่บนโค้งอ่าวทางใต้สุดของเกาะเอาสโตไก (Austvågøya) นำท่านล่องเรือ เพื่อชมนกอินทรีทะเลและให้อาหาร โดยในหมู่เกาะลอฟโฟเทนนี้ มีนกอินทรีทะเลสีขาวเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด แต่ถ้าโชคดีท่านอาจได้เห็นนกอินทรีสีทองขนาดเล็กที่หาชมได้ยาก

 

จากนั้น นำท่านสู่ท่าเรือสโลวแวร์ เพื่อนำท่านล่องเรือ Rembrandt van Rijn

ค่ำ  อาหารค่ำ บนเรือ

พักค้างแรมบนเรือ Rembrandt van Rijn

วันที่ห้า พฤ. 7 มี.ค. 62
(ล่องเรือ) อ่าวแฮมน์ไอเซ็นญา

เช้า  อาหารเช้า บนเรือ

เรือ Rembrandt van Rijn นำท่านเดินทางสู่ อ่าวแฮมน์ไอเซ็นญา (Hamn I Senja) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะเซนญาและเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ที่มีชื่อเสียงซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนเพื่อชมความงามของธรรมชาติและแสงเหนือ เดินทางลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติที่ทอดตัวขนานไปกับเทือกเขา และฟยอร์ดอันยาวเหยียด

ให้ท่านได้บันทึกภาพวิวทวิทัศน์ สุดอลังการของนอร์เวย์ ในแบบที่ท่านไม่เคยเห็นมาก่อน ระหว่างทางท่านอาจได้พบกับ“วาฬ” สัตว์นักล่าพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกหลากหลายสายพันธุ์ ออกมาหาอาหาร อาทิ วาฬหลังค่อม (Humpback Whale) วาฬเพชรฆาต (Orca) ได้อีกด้วย

อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ บนเรือ (บุฟเฟ่ต์)

ค่ำ  เรือ Rembrandt van Rijn นำท่านแวะจอดค้างคืนที่ อ่าวแฮมน์ไอเซนญา 1 คืน ให้ท่านได้เปิดประสบการณ์ชมแสงเหนือซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะดินแดนที่อยู่เหนือเส้นอาร์คติกเซอร์ เคิล หรือ ในเขตขั้วโลกเหนือ อันเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม

**หมายเหตุ : การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ

พักค้างแรมบนเรือ Rembrandt van Rijn

วันที่หก ศ. 8 มี.ค. 62
(ล่องเรือ) ทรอมโซ

 

 

อาหารเช้า บนเรือ

เรือ Rembrandt van Rijn นำท่านเดินทางสู่ ทรอมโซ (Tromsø) โดยเรือนำท่านล่องผ่าน เกาะควาเลอยา (Kvaløya) ชายฝั่ง และฟยอร์ดที่สวยงาม

ทรอมโซเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลทางเหนือของนอร์เวย์ มีหิมะปกคลุมภูเขาลูกใหญ่ที่โอบล้อมเมืองเอาไว้ราวกับป้อมปราการ มีสะพานทอดยาวระหว่างเกาะไปยังแผ่นดินใหญ่ เมืองที่ผู้คนมีความน่ารักและมีมิตรไมตรีคอยหยิบยื่นให้กับผู้ไปเยือนผสมผสานกับความคลาสสิคของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่ชาวทรอมโซยังอนุรักษ์ไว้ ยิ่งเพิ่มมนต์สเน่ห์ให้กับที่นี่

ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์เก่าแก่ชื่อว่า Arctic Cathedral ที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของทรอมโซที่สร้างขึ้นราวปี 1965 ก็ยังคงความงดงามเช่นเดิม บ้านไม้โบราณที่ว่ากันว่าสร้างตั้งแต่ปี 1789 หลายหลังที่ยังคงความเก่าแก่และคลาสสิคที่ชาวเมืองยังคงอนุรักษ์ไว้

โบสถ์ไม้เก่าแก่ชื่อ Tromso Cathedral ที่สร้างขึ้นในปี 1861 ก็มีความขลังและงดงามที่ไม่เคยเสื่อมคลาย และสิ่งปลูกสร้างอีกหลายแห่งที่ต่างก็มีมนต์สเน่ห์แห่งความเก่าแก่ที่ชาวเมืองทรอมโซยังอนุรักษ์ไว้อย่างดีอีกด้วย

อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ บนเรือ (บุฟเฟ่ต์)

ค่ำ  เรือ Rembrandt van Rijn นำท่านแวะจอดค้างคืนที่ ท่าเรือทรอมโซ 1 คืน ให้ท่านได้เปิดประสบการณ์ชมแสงเหนือ โดยทรอมโซ เป็นเมืองสวยชื่อดังของนอร์เวย์ เป็นส่วนหนึ่งของแลปป์แลนด์ และเป็นจุดยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในการล่าแสงเหนือ เพราะมีพิกัดอยู่ตรงเส้นอาร์กติกและเป็นหนึ่งในเมืองวงแหวนแสงเหนือของโลก

**หมายเหตุ : การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ

 พักค้างแรมบนเรือ Rembrandt van Rijn

วันที่เจ็ด ส. 9 มี.ค. 62
Lyngsfjord Adventure (เลือกทำ 1 ใน 3 กิจกรรมต่อท่าน)

เช้า  อาหารเช้า บนเรือ

หลังอาหาร นำท่านสู่ Lyngsfjord Adventure อิสระให้ท่านพักผ่อน โดยท่านสามารถเลือกทำกิจกรรม 1 ใน 3 กิจกรรมต่อท่าน


กิจกรรมที่ 1   การขับสโนว์โมบิล (Snowmobile safari)    (ใช้เวลาประมาณ 2 – 2.30 ชั่วโมง)

นำท่านทำกิจกรรมสุดประทับใจ กิจกรรมอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบตะลยุหิมะ กับการขับสโนว์โมบิล (Snowmobile safari) โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทาง ให้คำแนะนำในการขับขี่ และดูแลระหว่างการเดินทาง โดยทางบริษัทฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร)

**หมายเหตุ: ท่านใดมีความประสงค์ขับรถสโนว์โมบิล กรุณานำใบขับขี่รถยนต์สากลติดตัวไปด้วย


กิจกรรมที่ 2  การขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน (Dog sledding) (ใช้เวลาประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง)

นำท่านเปิดประสบการณ์ ด้วยการขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน (Dog sledding) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือใช้ลากพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะมาตลอด ฮัสกี้เป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุด โดยมีความอดทนต่ออุณหภูมิต่ำและหนาวเย็นได้เป็นอย่างดีเยี่ยม (ระยะทางประมาณ 10-12 กิโลเมตร)


กิจกรรมที่ 3  การนั่งรถลากเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ (REINDEER-SLEDDING) (ใช้เวลาประมาณ 80 นาที)

นำท่านเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ท่านจะต้องประทับใจไม่ลืม ด้วยการนั่งรถลากเลื่อนโดย

กวางเรนเดียร์ (REINDEER-SLEDDING) ยานพาหนะของซานตาครอส เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวซามิ (SAMI VILLAGE) ชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณเมืองทรอมโซ ระหว่างทาง ไกด์ท้องถิ่นชาวซามิจะบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติและการตั้งถิ่นฐานของชาวซามิในเขตแลปแลนด์ (LAPLAND) เมื่อท่านเดินทางถึง ท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวซามิ ที่คอยต้อนรับท่านอย่างอบอุ่น

เข้าสู่กระโจมของชาวซามิ (LAVVO) บริการท่านด้วย ซุปร้อนๆ ที่เรียกว่า BIDUS ทำจากเนื้อสัตว์ มันฝรั่ง และแครอท ใช้สำหรับงานแต่งงาน เสิร์ฟคู่กับขนมปัง นอกจากนั้นท่านสามารถชมการแสดงพื้นเมืองขอองชาวซามิได้อีกด้วย


กลางวัน   อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ค่ำ  อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม CLARION HOTEL THE EDGE หรือระดับเทียบเท่า

วันที่แปด อา. 10 มี.ค. 62
ทรอมโซ – คีร์คิเนส

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ทรอมโซ

10.15 น.  โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF 914 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน คีร์คิเนส

11.25 น.  ถึงท่าอากาศยานคีร์คิเนส เมืองคีร์คิเนส (Kirkenes) เป็นเมืองขุดเหมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรสุดฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนอร์เวย์ เมืองแห่งนี้จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากในฤดูหนาวอากาศจะเย็นจนถึงจุดเยือกแข็ง

โดยท่านสามารถพักที่โรงแรมหิมะ ตกปลาในน้ำแข็ง หรือชมแสงเหนือที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ การกระทบไหล่ลูกทีมลุงซานต้าได้ที่สวนซาฟารีแกบบ้าเรนเดียร์ นั่งรถลากด้วยสุนัขสุดระทึก หรือลิ้มรสปูยักษ์สดๆ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองสุดพิเศษของเมืองคีร์คิเนส

กลางวัน  ให้ท่านสนุกกับกิจกรรมชมการสาธิตการจับปูยักษ์ที่ King crab safari และการรับประทานปูยักษ์ (King crab) ซึ่งปูยักษ์บางตัวจะมีขนาดความยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก. ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน เมนูอาหารปรุงพิเศษจากเนื้อปูยักษ์แบบสดๆ

ค่ำ  อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม SNOWHOTEL KIRKENES (GAMME CABINS)

หรือระดับเทียบเท่า

วันที่เก้า จ. 11 มี.ค. 62
คีร์คิเนส – ออสโล

เช้า   อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน คีร์คิเนส

10.55 น.โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF 800 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน ออสโล

13.20 น. ถึงท่าอากาศยานออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ จากนั้น อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

พักค้างแรม ณ โรงแรม RADISSON BLU HOTEL SCANDINAVIA หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สิบ อ. 12 มี.ค. 62
ออสโล – กรุงเทพ

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ออสโล

13.30 น.โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG955 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน กรุงเทพฯ

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

วันที่สิบเอ็ด พ. 13 มี.ค. 62
ออสโล – กรุงเทพ

06.20 น. ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

Comments

comments