Enchanted Basque Country
Surprise! 8 Days 5 Nights
โดยสายการบินไทย (TG) และสายการบินลุฟต์ฮันซา (LH)
22-29 กันยายน 2566
Enchanted Basque Country
Surprise! 8 Days 5 Nights
โดยสายการบินไทย (TG) และสายการบินลุฟต์ฮันซา (LH)
22-29 กันยายน 2566
Enchanted Basque Country
Surprise! 8 Days 5 Nights
โดยสายการบินไทย (TG) และสายการบินลุฟต์ฮันซา (LH)
22-29 กันยายน 2566
วันแรก ศุกร์ 22 ก.ย. 66
กรุงเทพ ฯ

21.00 น.

พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4
เคาน์เตอร์สายการบินไทย เคาน์เตอร์เช็คอินแถว H,J
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
วันที่สอง เสาร์ 23 ก.ย. 66
มิวนิก – บิลเบา – พิพิธภัณฑ์กุกเกนฮาม – ย่านเมืองเก่า คาสโซ่ วีลโจ
00.50 น.
โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG924 นำท่านเหินฟ้าสู่ มิวนิก ประเทศเยอรมนี
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม พักค้างแรมบนเครื่องบิน

เช้า

อาหารเช้า บริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

07.05 น. ถึงท่าอากาศยาน มิวนิก ประเทศเยอรมนี หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

08.35 เหินฟ้าสู่ บิลเบา ประเทศสเปน โดยสายการบินลุฟต์ฮันซา เที่ยวบินที่ LH1824

10.50 ถึงท่าอากาศยาน บิลเบา ประเทศสเปน เมืองศูนย์กลางของแคว้นบาสก์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ

บิลเบาเป็นเมืองสมัยใหม่ที่มีอาคารสถาปัตยกรรมรูปทรงต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงอนุรักษ์ย่านเขตเมืองเก่าเอาไว้เป็นอย่างดีจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

หลังผ่านศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านสู่ภัตตาคาร

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กุเกนฮาม พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลป์ของศิลปินชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Picasso, Motherwell และ Rauschenberg เป็นต้น

ตัวอาคารใช้สถาปัตยกรรมการสร้างสไตล์โมเดิร์นที่โดดเด่นตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองไปแล้ว

โดยเป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกชาวอเมริกาเหนือนามว่า Frank O Gehry เริ่มสร้างในปีค.ศ. 1991 โดยรัฐบาลได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เปิดให้สาธารณชนเข้าชมครั้งแรกในวันที่ 18 ตุลาคม 1997 โดย Juan Carlos ที่ 1 แห่งสเปน และมีผู้เข้าร่วมพิธีเปิดกว่า 5,000 คน

ภายใน 3 ปีแรกหลังการเปิดพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าชมกว่า 4 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศกว่า 500 ล้านยูโร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือโรงแรม มีรายได้รวมกว่า 100 ล้านยูโร (ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง)

จากนั้น นำท่านเดินชม ย่านเมืองเก่า คาสโซ่ วีลโจ ในภาษาสเปนแปลว่าถนนทั้งเจ็ด เนื่องจากในบริเวณนี้มีถนนตัดผ่านทั้งหมดเจ็ดสาย เล็ก ๆ แคบ ๆ เสมือนซอยทั้งเจ็ด

ย่านนี้เป็นย่านที่มีสีสัน เรียงรายไปด้วยร้านค้า โรงแรมเล็ก ๆ และโบสถ์เก่าที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์มากมาย

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Gran Hotel Domine Bilbao หรือในระดับเดียวกัน
วันที่สาม อาทิตย์ 24 ก.ย. 66
บิลเบา – เพลนท์เซีย – Crusoe Treasure Underwater Winery
ซาน ฆวน เด กัสเตลูกัชเช่ – ซาน เซบาสเตียน

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่หาด เพลนท์เซีย เพื่อนำท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ จาก Crusoe Treasure Underwater Winery

นำท่าน ล่องเรือชมสถานที่แรกในโลกที่สร้างที่เก็บไวน์ไว้ใต้ มหาสมุทร และชิมไวน์ซึ่งถูกหมักบ่มไว้ใต้น้ำทะเลเป็นเวลาหลายปี

(หมายเหตุ การล่องเรืออาจไม่เปิดให้บริการ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยคำนึงถึงความความปลอดภัยของผู้เดินทาง)

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ซาน ฆวน เด กัสเตลูกัชเช่ (San Juan De Gaztelugatxe) มีความหมายว่าปราสาทหินในภาษาบาสก์ เป็นเกาะรูปทรงโคน มีสะพานหินเชื่อมสู่ตัวเกาะด้วยบันได 241 ขั้น ตั้งอยู่บนแนวชายหาดบนอ่าวบิสเกย์ ด้านบนสุดของเกาะ เป็นที่ตั้งของโบสถ์ซึ่งอุทิศให้แก่นักบุญจอห์น (John the Baptist)

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ซาน เซบาสเตียน เมืองทางตอนเหนือของ ประเทศสเปน ห่างจากพรมแดนประเทศฝรั่งเศสประมาณ 20 กิโลเมตร ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ทางธรรมชาติที่แสนงดงาม ตัวเมืองหันหน้าเข้าสู่ทะเล และยังโอบล้อมไว้ด้วยภูเขา จึงทำให้เมืองนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวระดับโลกมานานกว่า 2 ศตวรรษ

อีกทั้งเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านโภชนาการ และอาหารการกิน ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็หาร้านอาหารที่ได้รับมิชิลินสตาร์ไม่ยากเมื่อเทียบกับเมืองอื่นในทวีปยุโรป เมืองนี้มีร้านอาหารที่ได้รับมิชิลินสตาร์ระดับ 3 ดาวอยู่ถึง 3 ร้านจากทั้งหมด 5 ร้านในประเทศสเปน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่เมืองนี้จะได้รับสมญานามให้เป็น “World Famous Food Tourism Destination” 

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม NH Collection San Sebastián Aránzazu หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สี่ จันทร์ 25 ก.ย. 66
ซาน เซบาสเตียน – ตลาด ลาเบรช่า – ย่านเมืองเก่า ลา พาร์ท วีจา
ทัวร์รับประทานพินโชส Pintxos – รถรางสู่ ยอดเขาอิกูเอลโด

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ตลาด ลาเบรช่า ตลาดใหญ่กลางเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจับจ่ายของสดมาทำอาหารขึ้นชื่อตามร้านต่างๆในเมือง ตัวอาคารสร้างขึ้นในสไตล์โรมันและกรีซแบบโบราณ ชั้นใต้ดินเป็นซุปเปอร์มาเก็ต อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ย่านเมืองเก่า ลา พาร์ท วีจา เมืองเก่าที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปีค.ศ. 1813 ตลอดสองข้างทาง จะเป็นถนนเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยบ้านเรือนสมัยยุคกลาง ซึ่งปัจจุบันได้ดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ผับ และบาร์ต่าง ๆ มากมาย นับเป็นย่านที่มีสีสัน และครึกครื้นตลอดทั้งปี

ด้านล่างของย่านเมืองเก่ายังมีย่าน โรแมนติคเซ็นเตอร์ ย่านนี้เรียงรายไปด้วยตึกสวยงามสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งสร้างในปลายศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่เป็นร้านขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร และยังมี โบสถ์กู้ดเชพเพิร์ด สร้างในสไตล์ยุโรปซึ่งแสดงถึงการได้รับอิทธิพลจากชาวต่างชาติที่เข้ามาวางผังเมืองทางสถาปัตยกรรมในช่วงศตวรรษที่ 19

กลางวัน

ร่วม ทัวร์รับประทานพินโชส Pintxos 

สำหรับพินโชสนั้น ถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมการทานอาหารของชาวบาสก์ มีลักษณะเป็นของว่างหลากหลายอย่างขึ้นอยู่กับการรังสรรค์ของพ่อครัวแต่ละร้าน โดยจะกลัดไม้เล็กๆสามารถทานได้ในคำเดียว ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟในบาร์ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

หลังอาหาร นำท่านเดินทางด้วยรถรางสู่ ยอดเขาอิกูเอลโด ท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของชายหาด ลา คอนช่า ซึ่งโค้งรับกับตัวเมืองซานเซบาสเตียน

นอกจากนั้น บนยอดเขายังมีสวนสนุกเก่าแก่ที่สุดในแคว้นบาสก์ ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1911 และยังมีประภาคาร เอล ตอเรออน สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ก่อน คอยส่องไฟนำทางเรือที่จะมายังเมืองซาน เซบาสเตียน

ก่อนที่ประภาคารหลังใหม่จะถูกสร้างต่อมาใน ค.ศ.1854 ในตัวประภาคารยังคงมีการจัดแสดงรูปถ่ายในสมัยอดีตให้ท่านได้ชม (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง)

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม NH Collection San Sebastián Aránzazu หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ห้า อังคาร 26 ก.ย. 66
ซาน เซบาสเตียน – บิตอเรีย กาสเตย์ซ – วิหารซานต้ามาเรีย
ไร่ไวน์มาร์เกส เด ริสกาล – เบอกอส – มหาวิหารเบอกอส

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ บิตอเรีย กาสเตย์ซ ให้ท่านได้ชมเมืองหลวงของแคว้นบาสก์ เมืองที่ยังคงรักษาความเป็นเมืองในยุคกลาง โดยท่านจะสังเกตได้จากกำแพงเมืองและหอสังเกตการณ์ซึ่งสร้างบนเนินมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 

แล้วนำท่านชม วิหารซานต้ามาเรีย วิหารสไตล์กอธิค ได้รับการแต่งตั้งจากพระราชากัสติล อัลฟองโซที่แปด ให้เป็นวิหารประจำเมืองเนื่องจากตั้งอยู่จุดที่สูงสุดของเนิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 วิหารมีการซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่และยังคงเปิดให้เข้าชมทัวร์วิหารในขณะที่ยังคงบูรณะซึ่งถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ท่านได้เข้าชมในช่วงนี้ (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง)

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ไร่ไวน์มารเกส เด ริสคัล (Marqués de Riscal) เป็นไร่ไวน์ที่เก่าแก่ของแคว้นลาริโอคา ที่ เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1858 มีองุ่นหลายสายพันธุ์ที่ปลูกอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร

อาคารยังได้รับการออกแบบ และสร้างโดยสถาปนิกชื่อดังคนเดียวกันกับที่สร้างพิพิธภัณฑ์กุกเกนฮามที่บิลเบา อีกด้วย หลังคาใช้ไทเทเนี่ยมเป็นวัสดุหลัก สีที่ใช้มีทั้งหมด 3 สีคือ สีชมพู สีทอง และสีเงิน แต่ละสีต่าง มีความหมายและที่มาที่ไปในตัวเอง 

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในไร่ไวน์มาร์เกส เด ริสกาล

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เบอกอส เมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ทางด้านวัฒนธรรม ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของแคว้นคาสตีลมานานกว่า 500 ปี และได้รับการขนานนามว่าเป็น “Cradle of Castile” อีกด้วย  จากนั้น นำท่านเดินข้ามสะพานซานต้ามาเรีย เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองเก่า ชมประตูเมืองอาร์โค เดอ ซานต้า มาเรีย ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16

ชมความยิ่งใหญ่อลังการของ มหาวิหารเบอกอส หรือโบสถ์ซานต้า มาเรีย โบสถ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศสเปน เริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ.1221 แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลาร่วมกว่า 300 ปี

ตลอดระยะเวลาการสร้างได้ใช้ช่างศิลป์ที่ขึ้นชื่อมากหน้าหลายตาจากทั่วทั้งทวีปยุโรป ทั้งการตกแต่งภายในและภายนอกล้วนแล้วแต่เป็นศิลปะแบบกอธิคที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศฝรั่งเศสและเยอรมัน มหาวิหารเบอกอส  นับเป็นโบสถ์แห่งเดียวในประเทศสเปน ที่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Hotel Landa,Bugos หรือในระดับเดียวกัน

วันที่หก พุธ 27 ก.ย. 66

เบอกอส – ลาสโรซาส วิลเลจ เอาท์เล็ต – แมดริด – ช้อปปิ้งถนนเซอราโน่

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เซอโกเบีย เมืองโบราณบนภูเขา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรมตั้งแต่ปีค.ศ. 1975 

เซอโกเบีย ถือได้ว่าเป็นมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเคยถูกครอบครองโดยอาณาจักรโรมันโบราณมาก่อน ดังนั้นร่องรอยความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมสไตล์โรมันจึงปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัดทั่วทั้งเมือง

แล้วนำท่านชมความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ยุคโรมันโบราณ ซึ่งว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ นั่นก็คือ สะพานส่งน้ำโรมันโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 โดยชาวโรมันขณะที่กำลังขยายอำนาจในคาบสมุทรไอบีเรียเพื่อลำเลียงน้ำจาก แม่น้ำฟรีโอ  ซึ่งห่างจากเมืองออกไปประมาณ 18 กิโลเมตร 

ตัวกำแพงมีจุดเก็บกักน้ำเสมือนแทงค์ขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยอิฐที่สามารถจุน้ำได้หลายแกลลอน ทำให้สะพานแห่งนี้มีความยาวโดยรวมกว่า 30 กิโลเมตร และมีจุดที่สูงที่สุดสูงถึง 28.5 เมตรเลยทีเดียว

แม้ในปัจจุบันสะพานแห่งนี้จะเหลือความยาวเพียงแค่ 700 เมตร และไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ทางหน่วยงานรัฐก็ยังคงอนุรักษ์สะพานส่งน้ำนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ได้เห็นถึงความอลังการการก่อสร้างในยุคโรมันโบราณ

อิสระให้ท่านเก็บภาพแห่งความประทับใจตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่ ลาส โรซาส วิลเลจ เอาท์เล็ต ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 100 ร้านค้า ให้ท่านสามารถสนุกสนานกับการจับจ่ายสินค้าไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี อุปกรณ์กีฬา ของใช้ภายในบ้าน และอื่น ๆ อีกมายมาย ซึ่งเป็นสินค้าแฟชั่น ในราคาลดพิเศษสุด อาทิเช่นAmani, Burberry, Bally, Diesel, Hugo Boss ฯ

อิสระให้ท่านช้อปปิ้งจนถึงเวลานัดหมาย

กลางวัน

อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัยภายในเอาท์เล็ต

หลังอาหาร อิสระให้ท่านช้อปปิ้งต่อตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุงแมดริด เมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม NH Collection Madrid หรือในระดับเดียวกัน

วันที่เจ็ด-แปด 28-29 ก.ย. 66

แมดริด – ท่าอากาศยานแมดริด – แฟรงก์เฟิร์ต – กรุงเทพฯ

วันที่เจ็ด พฤหัสบดี 28 ก.ย. 66

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานกรุงแมดริด 

กลางวัน อิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน

13.00 น. โดยสายการบินลุฟต์ฮันซา เที่ยวบินที่ LH1113 นำท่านเหินฟ้าสู่ แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

15.30 น. ถึงท่าอากาศยาน แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

20.40 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG923 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพ ฯ

วันที่แปด ศุกร์ 29 ก.ย. 66

เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

15.10 น. ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

อัตราค่าบริการ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

Enchanted Basque Country

Surprise! 8 Days 5 Nights

โดยสายการบินไทย (TG) และสายการบินลุฟต์ฮันซา (LH)

ออกเดินทางวันที่
22 – 29 ก.ย. 2566
จำนวนผู้ใหญ่เดินทางขั้นต่ำ ต่อรถบัส 1 คัน
15 ท่านขึ้นไป
ราคาค่าบริการทัวร์ ท่านละ
124,900 บาท
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
35,900 บาท

หมายเหตุ

– ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว

– ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

– ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์

– กรณีผู้เดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 20,000 บาท โดยประมาณ (ซึ่งผู้เดินทางจะต้องไม่น้อยกว่า 10 ท่าน)

ค่าบริการรวม

-ค่ารถรับส่งตามรายการ

-ค่าธรรมเนียมการเข้าชมถานที่ และกิจกรรมตามรายการ

-ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน

– ค่าอาหารตามรายการ

-ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว

ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท

ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ (รวมเจ็บป่วย)วงเงินท่านละ 1,500,000 บาท

-หัวหน้าทัวร์และ มัคคุเทศก์ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

-ทิปมัคคุเทศก์ และ คนขับรถ

-การบริการจัดเตรียมน้ำดื่ม ท่านละ 1 ขวดต่อวัน

-Internet Sim Card สำหรับใช้ในประเทศยุโรป 1 ซิมต่อท่าน

พิเศษ! ของพรีเมี่ยม บริการ ณ วันเดินทาง เช่น กระเป๋า Travel Kit, ปกพาสปอร์ทหนังเเท้, คู่มือการเดินทาง,เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ, หน้ากากอนามัย, Universal adapter

ค่าบริการนี้ไม่รวม

-ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ

-ภาษีสนามบินทุกแห่ง

– ค่าใช้จ่ายการตรวจ RT-PCR สำหรับผู้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม

– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกลค่าเครื่องดื่ม

– ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 

ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง (PDF)