Georgia Cradle of Wine & The Greater Caucasus
ประเทศ จอร์เจีย
14-21 พฤษภาคม 2563 (8 วัน)
โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ (TK)
เปิดประสบการณ์และการผจญภัยในดินแดนขั้วโลกเหนืออย่างมีระดับ
เพลิดเพลินไปกับสัตว์เลี้ยงของซานตาคลอส ด้วยการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์
ชมดินแดนแห่งความสุขในจินตนาการที่หมู่บ้านซานตาคลอส ผจญภัยกับการขับขี่สโนว์โมบิล ท่ามกลางหิมะ
สัมผัสกับความน่ารักและแสนรู้ของสุนัขฮัสกี้ พร้อมนั่งขับเลื่อนลากสุนัขฮัสกี้
นั่งรถเพนโดลิโน่ วิ่งบนลานหิมะสู่เหมืองพลอยอเมทิสต์
สัมผัสประสบการณ์สุดยอดครั้งหนึ่งในชีวิตด้วยการค้างแรมที่ Glass Igloo
ปิดท้ายด้วยการชมเมืองหลวงเฮลซิงกิ “ธิดาแห่งทะเลบอลติก”
วันแรก ศ. 6 ธ.ค. 62 กรุงเทพฯ – แฟรงค์เฟิร์ต |
09.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ เคาน์เตอร์เช็คอินแถว H
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
12.40 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG922 นำท่านเหินฟ้าสู่ แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
(ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง 25 นาที)) พักค้างแรมบนเครื่องบิน
19.05 น. ถึงท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
22.15 น. โดยสายการบินลุฟต์ฮันซา เที่ยวบินที่ LH510 นำท่านเหินฟ้าสู่ บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา (ใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมง 45 นาที)
วันที่สอง ส. 7 ธ.ค. 62 แฟรงค์เฟิร์ต – บัวโนสไอเรส – อูซัวยา |
09.30 น. ถึงท่าอากาศยานบัวโนสไอเรส เมืองหลวงที่สุด และเมืองท่าของประเทศอาร์เจนตินา หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว
12.40 น.โดยสายการบินสายการบิน แอโรลีเนียส อาร์เจนตินัส เที่ยวบินที่ AR1896 นำท่านเหินฟ้าสู่
อูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 35 นาที)
กลางวัน อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
16.35 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ Malvinas Argentinas อูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา เมืองท่าเล็กๆ แต่จอแจ ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของทวีปอเมริกาใต้ หลังตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางผ่านชมตัวเมืองอูซัวยา
แล้วนำท่านสู่โรงแรมที่พัก อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารภายในโรงแรม
พักค้างแรม ณ โรงแรม ARAKUR Ushuaia & Spa หรือในระดับเดียวกัน
วันที่สาม อา. 8 ธ.ค. 62 อูซัวยา – ลงเรือ Quark Expeditions “World Explorer” |
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารอาหารภายในโรงแรม
หลังอาหาร อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อปรับเวลาและเตรียมตัวลงเรือในช่วงบ่าย
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อเช็คอินลงเรือ World Explorer และเก็บสัมภาระ
World Explorer เป็นเรือสำรวจขั้วโลกใต้ลำใหม่ล่าสุดของ Quark Expeditions ที่เพิ่ง เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2019 ใน Viana do Castelo ประเทศโปรตุเกส โดยได้ คาร์ลา บรูนี-ซากอซี (Carla Bruni-Sarkozy) นักประพันธ์เพลง นักร้อง นางแบบ และอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส มาเป็นผู้ตัดริบบิ้นแดงเพื่อเปิดเรือ และเธอ ยังเป็นแม่ทูนหัวของเรือ World Explorer อีกด้วย
เรือนักสำรวจที่หรูหราลำนี้ จะเริ่มเดินเรือครั้งแรกโดย Quark Expeditions โดยจะอยู่ใน ทวีปแอนตาร์กติกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019 เรือลำใหม่ล่าสุดนี้มีความโดดเด่นด้าน ดีไซน์ห้องพักที่เป็นสไตล์คอนเทมโพราลีหรือแบบร่วมสมัย
ทุกห้องสวีทมีระเบียงส่วนตัว ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยม รองรับผู้เดินทางได้ทั้งหมด 176 ท่าน ด้วยเครื่องยนต์เทคโนโลยีไฮบริดที่ทันสมัยจาก Rolls-Royce ทำให้มีผลกระทบต่อ ธรรมชาติต่ำมากในการเดินเรือ
World Explorer จะดำเนินการโดยหนึ่งในทีมนักสำรวจ และทีมงานที่มีประสบการณ์มากที่สุดในภูมิภาคขั้วโลกเพื่อให้มั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับประสบการณ์สำรวจขั้วโลกใต้ที่ดีที่สุด
เรือ World Explorer มีความโดดเด่น สะดวกสบาย และกว้างขวาง ห้องโดยสารทุกห้องมีระเบียงส่วนตัวสำหรับชมวิวทะเลโดยตรง World Explorer ยังมีสิ่งต่างๆ มากมาย มีพื้นที่สาธารณะเพื่อผ่อนคลายหลังจากที่ท่านกลับมา จากการผจญภัย รวมถึงโดมแก้วที่เป็นที่นั่งชมวิว
ท่านสามารถพักผ่อนที่เลาจ์น อ่านหนังสือสบายๆ ที่ห้องสมุด หรือใช้บริการศูนย์สุขภาพที่มีลู่วิ่งแบบกลางแจ้ง ยิมขนาดเล็กและซาวน่า รวมถึงสปาที่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำและห้องล็อคเกอร์
เรือ World Explorer ออกเดินทางจากอูซัวยา เริ่มต้นการผจญภัยสู่ทวีปที่เจ็ดของโลก ทวีปแอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้ ที่น้อยคนนักจะเดินทางมาถึง เรือจะล่องไปตามช่องทาง Beagle อันเก่าแก่ ซึ่งตัดผ่านหมู่เกาะ Tierra del Fuego ทางตอนใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ในวันถัดไปที่ท่านจะได้เห็นแผนดิน ท่านอาจจะอยู่ในทวีปทางใต้สุดของโลกแล้ว!
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรม ณ บนเรือ World Explorer
ในยามค่ำคืน เรือจะนำท่านสู่ ทวีปแอนตาร์กติก
วันที่สี่ จ. 9 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – Drake Passage |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือ World Explorer นำท่านเดินทางผ่าน เดรค แพสเซจ (Drake Passage) น่านน้ำที่อยู่ระหว่างทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอนตาร์กติก (ใช้เวลาเดินเรือ 2 วัน)
ระหว่างการล่องเรือในวันนี้ ท่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับทะเล และทวีปแอนตาร์กติก วิทยากรจากทีมนักสำรวจของเรือจะบรรยายเกี่ยวกับสัตว์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ธรณีวิทยา และประวัติศาสตร์ของขั้วโลกใต้ รวมไปถึงรายละเอียดและการเตรียมตัวก่อนที่เรือ จะเดินทางถึงแอนตาร์กติก ในระหว่างการบรรยายวิทยากรอาจนำท่านสู่บริเวณดาดฟ้าเรือ เพื่อชมชีวิตสัตว์ทะเล หรือพูดคุยกันสบายๆ ที่บาร์พร้อมเครื่องดื่มสักแก้ว
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่ห้า อ. 10 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – Drake Passage |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือ World Explorer นำท่านเดินทางผ่าน เดรค แพสเซจ (Drake Passage) กระแสน้ำ ของเดรคแพสเซจนั้นไม่อาจคาดการณ์ได้ หวังว่าวันนี้ท่านจะได้เห็นท้องฟ้าที่แจ่มใสและ มหาสมุทรที่สงบนิ่ง ระหว่างการล่องเรือในวันนี้ท่านมีเวลาเหลือเฟือที่จะชมทิวทัศน์ของ ท้องทะเล และถ่ายภาพนกทะเลที่บินวนไปมารอบๆ เรือ รวมทั้งสนทนากับทีมนักนักสำรวจ และเพื่อนนักเดินทาง
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่หก พ. 11 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – แอนตาร์กติก |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือ World Explorer นำท่านเดินถึงทวีปแอนตาร์กติก การผจญภัยที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ภาพแรกของทวีปสีขาวที่ยากจะมาถึงจะทำให้ท่านตกอยู่ในภวังค์ ท่านอาจจะเริ่มรู้สึกซาบซึ้ง ว่าเหตุใดภูมิภาคนี้จึงได้รับความสนใจจากนักสำรวจและนักเดินทางมายาวนาน การเดินทาง มาเยือนแอนตาร์กติกทุกครั้ง ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไป ท่านได้เห็นสิ่งใหม่ หรือสิ่งที่ไม่คาดคิด มาก่อน
การเดินทางครั้งนี้ของท่านจะไม่เหมือนที่อื่นใดในโลก เป็นประสบการณ์ส่วนตัว ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละวัน เรือโซดิแอค (Zodiac) เรือสำรวจขนาดเล็กจะนำท่านออกเดินทาง เพื่อสำรวจแอนตาร์กติก อ่าว ช่องแคบ และนำท่านขึ้นฝั่ง
ท่านจะได้เยี่ยมชมฝูงเพนกวิน ชมวาฬหลังค่อมและปลาวาฬมิงค์ ชมฝูงแมวน้ำหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงแมวน้ำเสือดาว ที่ฉลาดหลักแหลม
*** หมายเหตุ การเดินทางในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและกระแสน้ำทะเล ทางทีมนักสำรวจของเรือจะเป็นผู้กำหนด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก ***
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่เจ็ด พฤ. 12 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – แอนตาร์กติก |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือโซดิแอค (Zodiac) จะนำท่านสู่ฝั่งเพื่อเริ่มการผจญภัย ความสง่างามของเทือกเขาในคาบสมุทรแอนตาร์กติกจะทำให้ท่านเคลิบเคลิมและหลงใหล ในขณะที่ทีมนักสำรวจนำท่านเดินไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยหิมะ ไปสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้ชมวิวแบบมุมมอง 360 องศา ท่านจะค้นพบว่าทวีปแอนตาร์กติกเป็นดินแดนที่สุดขั้ว
ในช่วงเวลาหนึ่งคุณจะถูกครอบงำด้วยความรู้สึกที่อ้างว้างและความเงียบงัน และในเวลาถัดมาท่านอาจจะได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในขณะที่ธารน้ำแข็งที่หลุดร่วงลงสู่ทะเลสีฟ้าสดใส หรือเมื่อนกเพนกวินขี้สงสัยเดินเข้ามาใกล้ท่านแล้วเริ่มสำรวจรองเท้าของท่าน
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่แปด ศ. 13 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – แอนตาร์กติก |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
หลังอาหาร เรือโซดิแอค (Zodiac) จะนำท่านสู่ฝั่งเพื่อเริ่มการผจญภัย ทีมนักสำรวจจะคอย ดูแลท่าน ทุกครั้งที่ขึ้นฝั่ง ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปตามภูมิประเทศของแอนตาร์กติก เยี่ยมชม สถานีวิจัย หรือสำรวจอาณานิคมของเพนกวิน ท่านอาจจะได้เห็นเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น Chinstrap, Adélie และ Gentoo
รวมไปถึงแมวน้ำพันธุ์ต่างๆ เช่น Weddell, Fur, Crabeater และแมวน้ำเสือดาว และอย่าลืมที่จะมองหาวาฬที่ขี้สงสัย เช่น วาฬมิงค์ ที่อาจจะโผล่ขึ้นมาขณะที่ท่านอยู่ในเรือโซดิแอค การสำรวจในแต่ละวันและการ ขึ้นฝั่ง แต่ละครั้ง ท่านจะได้เห็นสัตว์ชนิดใหม่ๆ เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะเตรียมกล้องของท่าน ให้พร้อมในทุกวัน
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่เก้า ส. 14 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – แอนตาร์กติก |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือโซดิแอค (Zodiac) จะนำท่านสู่ฝั่งเพื่อเริ่มการผจญภัย ท่ามกลางความเงียบสงบของ ทวีปแอนตาร์กติก ก็ยังมีเสียงอึกทึกครึกโครมที่กลายเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน เช่น เสียงของนกเพนกวินที่ทะเลาะกันเพื่อแย่งก้อนกรวดแสนสวยอันมีค่า หรือเสียงกังวาน จากรอยแตกของธารน้ำแข็งที่หลุดร่อนลงกระทบผิวน้ำ
การเดินทางทุกวันของท่าน จะแตกต่างกันไปอย่างไม่สามารถคาดเดาได้เลย ทีมนักสำรวจจะออกแบบการผจญภัย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และให้ความรู้แก่ท่าน ณ แห่งนี้ หนึ่งในส่วนที่สวยงามที่สุดของโลก
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่สิบ อา. 15 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – แอนตาร์กติก |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
หลังอาหาร เรือโซดิแอค (Zodiac) จะนำท่านสู่ฝั่งเพื่อเริ่มการผจญภัย ทีมนักสำรวจจะคอย ดูแลท่าน ทุกครั้งที่ขึ้นฝั่ง ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปตามภูมิประเทศของแอนตาร์กติก เยี่ยมชม สถานีวิจัย หรือสำรวจอาณานิคมของเพนกวิน ท่านอาจจะได้เห็นเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น Chinstrap, Adélie และ Gentoo
รวมไปถึงแมวน้ำพันธุ์ต่างๆ เช่น Weddell, Fur, Crabeater และแมวน้ำเสือดาว และอย่าลืมที่จะมองหาวาฬที่ขี้สงสัย เช่น วาฬมิงค์ ที่อาจจะโผล่ขึ้นมาขณะที่ท่านอยู่ในเรือโซดิแอค การสำรวจในแต่ละวันและการ ขึ้นฝั่ง แต่ละครั้ง ท่านจะได้เห็นสัตว์ชนิดใหม่ๆ เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะเตรียมกล้องของท่าน ให้พร้อมในทุกวัน
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่สิบเอ็ด จ. 16 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – แอนตาร์กติก |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
เรือ World Explorer นำท่านเดินทางข้าม เดรค แพสเซจ (Drake Passage) เป็นโอกาส สุดท้ายที่จะได้เพลิดเพลินกับอากาศเย็นสดชื่นของแอนตาร์กติก ท่านสามารถใช้เวลา อยู่บน ดาดฟ้า ดูนกทะเลและเหล่าวาฬ เพลิดเพลินกับเรื่องเล่าจากทีมนักสำรวจ และเฉลิมฉลอง ประสบการณ์ที่ได้จากการสำรวจทวีปแอนตาร์กติกของท่าน (ใช้เวลาเดินเรือ 2 วัน)
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
วันที่สิบสอง อา. 17 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – Drake Passage |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
หลังอาหาร เรือ World Explorer นำท่านเดินทางข้าม เดรค แพสเซจ (Drake Passage) สู่ อูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา The Drake Passage หรือ Mar de Hoces เป็นทะเล ที่อยู่ระหว่างเคปฮอร์นของทวีปอเมริกาใต้และหมู่เกาะเชทแลนด์ของทวีปแอนตาร์กติก
Drake Passage ได้รับการตั้งชื่อตาม เซอร์ฟรานซิส เดรค นักเดินเรือชาวอังกฤษ ในช่วงศตวรรษที่ 15
กลางวัน ค่ำ
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ
พักค้างแรมบนเรือ World Explorer
ในยามค่ำคืน เรือจะนำท่านสู่ อูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา
วันที่สิบสาม พ. 18 ธ.ค. 62 ล่องเรือ World Explorer – อูซัวยา – บัวโนสไอเรส |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ
07.00 น.หลังอาหาร เรือ World Explorer เข้าเทียบท่า ณ อูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อเรือจอด เทียบท่าแล้วท่านจะมีเวลาบอกลากับทีมนักสำรวจและลูกเรือก่อนที่จะลงจากเรือ กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ตัวเมือง อูซัวยา เมืองนี้ตั้งอยู่บนช่องแคบ Beagle เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด Tierra del Fuego ของอาร์เจนตินา และเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้สุดของโลก
ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นจุดศูนย์กลาง ของมิชชันนารี และฐานทัพเรือของกองทัพเรืออาร์เจนตินา ทุกวันนี้อูซัวยาเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สำคัญ พร้อมด้วยคาสิโนและร้านอาหารที่ดี และใช้เป็นฐานสำหรับการเดินป่า กีฬาฤดูหนาว และการล่องเรือไปยังทวีปแอนตาร์กติก
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ Malvinas Argentinas อูซัวยา ประเทศอาร์เจนตินา
15.20 น. โดยสายการบินสายการบิน แอโรลีเนียส อาร์เจนตินัส เที่ยวบินที่ AR1897 นำท่านเหินฟ้าสู่ ท่าอากาศยานบัวโนสไอเรส (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที)
18.40 น. ถึงท่าอากาศยานบัวโนสไอเรส แล้วนำท่านสู่ภัตตาคาร
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Sofitel Buenos Aires Recoleta หรือในระดับเดียวกัน
วันที่สิบสี่ พฤ. 19 ธ.ค. 62 บัวโนสไอเรส – แฟรงค์เฟิร์ต |
เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชมเมืองบัวโนสไอเรส เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อาร์เจนตินา ได้รับสมญานามว่าเป็น “ปารีสแห่งอเมริกาใต้” เนื่องจากมีวัฒนธรรมยุโรป ให้เห็นได้ทั่วไป และยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกด้วย นำท่านผ่านชม ตึกกุหลาบ (Rose House) หรือ Casa Rosada ตึกสีกุหลาบซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง
ปัจจุบันเป็นอาคารรัฐสภาและทำเนียบประธานาธิบดี ผ่านชมจัตุรัสมาโย (Plaza de Mayo) จัตุรัสสำคัญขนาดใหญ่ของเมืองซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทางการเมือง ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1580
ผ่านชมถนน Avenida de Mayo ถนนสายสำคัญบัวโนสไอเรส ซึ่งเชื่อมต่อกับ
Plaza de Mayo กับ Congress Plaza ความยาว 1.5 กิโลเมตร มีสถานที่ราชการ อาคารประวัติศาสตร์ และสถานที่สำคัญหลายแห่ง
แล้วนำท่านชมถนนที่ปูด้วยหินในย่าน San Telmo ย่านเก่าแก่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของ ดนตรีและการเต้นรำแบบแทงโก้ แล้วมุ่งหน้าไปยังย่าน La Boca เพื่อถ่ายรูปบ้านที่ ทาสีสดใสบนถนน Caminito แล้วนำท่านชมท่าเรืออันคึกคักที่ Puerto Madero
จากนั้น นำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้งถนนฟลอริดา (Florida Street) ถนนช้อปปิ้งยอดนิยมในเมือง บัวโนสไอเรส เป็นถนนคนเดินมาตั้งแต่ปี ค. ศ. 1971 ถนนบางสายเป็นถนนคนเดินมาตั้งแต่ ปี ค. ศ. 1913 มีทั้งร้านบูทีค ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร มากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานบัวโนสไอเรส
ค่ำ อาหารค่ำ อิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน
18.05 น. โดยสายการบินลุฟต์ฮันซา เที่ยวบินที่ LH511 นำท่านเหินฟ้าสู่ แฟรงค์เฟิร์ต
ประเทศเยอรมนี (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)
วันที่สิบห้า ศ. 20 ธ.ค. 62 บัวโนสไอเรส – แฟรงค์เฟิร์ต |
เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
11.15 น. ถึงท่าอากาศยาน แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
13.45 น.โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG921 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ (ใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมง 10 นาที)
วันที่สิบหก ส. 21 ธ.ค. 62 แฟรงค์เฟิร์ต – กรุงเทพ |
เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
06.25 น. ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
โปรแกรมเดินทาง (Itinerary)
วันแรก พฤ. 14 พ.ค. 63 กรุงเทพฯ |
18.45 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้นที่ 4 ประตูที่ 10 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว U เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
21.45 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK65 นำท่านเหินฟ้าสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
วันที่สอง ศ.15 พ.ค. 63 โดฮา – ทบิลิซี – เทลาวิ – พิพิธภัณฑ์ อเล็กซานเดอร์ ชาฟชาเวดซ์ |
เช้า อาหารเช้า บริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
04.10 น. ถึงท่าอากาศยาน อิสตันบูล ประเทศตุรกีแวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
06.15 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK378 นำท่านเหินฟ้าสู่ ทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย
09.35 น. ถึงท่าอากาศยาน ทบิลิซี หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เทลาวิ (Telavi) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัด Kakheti ทางตะวันออกของจอร์เจียเป็นที่ตั้งของโรงบ่มไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ปราสาท และโรงละคร ที่เน้นการร้องเพลงและเต้นรำพื้นบ้าน
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ อเล็กซานเดอร์ ชาฟชาเวดซ์ ในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่พำนักหลังใหญ่นี้เป็นของนักกวีชาวจอร์เจียที่มีชื่อเสียงและบุคคลสาธารณะ อเล็กซานเดอร์ ชาฟชาเวดซ์ ประกอบไปด้วยสวนสวยที่มีต้นไม้และพันธุ์ไม้กว่า 1,000 สายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ภายในอาคารยังมีห้องเก็บไวน์ที่มีคอลเล็กชั่นไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ Lopota Lake Resort & Spa สถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบใน หุบเขา สวรรค์ส่วนตัวของผู้รักธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาคอเคซัสที่ยิ่งใหญ่
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
พักค้างแรม ณ โรงแรม Lopota Lake Resort & Spa หรือในระดับเดียวกัน
วันที่สาม ส. 16 พ.ค. 63 เทลาวิ – ซิกนากิ – กำแพงเมืองและป้อมปราการณ์ซิกนากิ – ไวน์บาร์ Pheasant’s Tears – อารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี – ชาโตว์ไวน์ชุชแมน – เทลาวิ |
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ซิกนากิ ศูนย์กลางการปลูกไวน์ของจอร์เจียเช่นเดียวกับภูมิทัศน์ที่งดงามบ้านสีพาสเทลและถนนแคบๆ สามารถมองเห็นหุบเขาอลาซานี อันกว้างใหญ่
แล้วนำท่านชม กำแพงเมืองและป้อมปราการณ์ซิกนากิ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ที่นี่คือป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจีย มีหอสังเกตการณ์ประมาณ 28 แห่ง ซึ่งเมื่อขึ้นไปบนหอนั้นท่านจะสามารถชมวิวอันงดงามของหุบเขาอลาซานีได้
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ไวน์บาร์ Pheasant’s Tears หนึ่งในไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของจอร์เจีย เป็นโรงไวน์แบบจอร์เจียที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2007 โดย John Wurdeman จิตรกรชาวอเมริกันและภรรยาของเขา Gela Patalishvili ชาวจอร์เจีย
ครอบครัวของ Gela เป็นผู้ผลิตไวน์มายาวนานย้อนหลังไปถึงแปดรุ่น ไวน์ทั้งหมดจะหมักใน qvevri ไหดินเหนียวแบบดั้งเดิมแล้วฝั่งลงไปใต้ดิน หมักด้วยยีสต์ตามธรรมชาติ
ในการทำไวน์แต่ละชนิดใช้เทคนิคในการหมักต่างกันเล็กน้อย บางชินดมีผิวองุ่นผสมเล็กน้อยน้อย บางชินดมีมีลำต้นองุ่นรวมอยู่ด้วย ซึ่งไวน์ที่หมักใน qvevri จะหมักได้ที่เร็วกว่าไวน์ธรรมดา
พิเศษ ให้ท่านทดลองชิมไวน์ และเลือกซื้อไวน์ที่ท่านชื่นชอบ
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ อารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี อารามจอร์เจียนออร์โธด๊อกซ์โบราณดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเมื่อช่วงราวศตวรรษที่ 17
อารามแห่งนี้เคยใช้เป็นที่ประทับของบิชอปบอดบี (Bishop of Bodbe) และยังนับเป็นหนึ่งในอารามที่อยู่ในเส้นทางแสวงบุญของชาวจอร์เจีย
ภายในเป็นที่ประทับของร่างแห่งองค์เซนต์นีโน่ ศาสดาหญิงผู้มีชีวิตอยู่ช่วงศตวรรษที่ 4 ซึ่งชาวจอร์เจียนับถือเป็นอย่างมาก ผู้ซึ่งเคยถวายการรักษาแก่ราชินีนานาและกษัตริย์มิเรี่ยนที่ 3 แห่งแคว้นไอบีเรีย
ส่งผลให้จากนั้นได้ทรงประกาศศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด๊อกซ์เป็นศาสนาประจำชาติจอร์เจีย
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ชาโตว์ไวน์ชุชแมน ตั้งอยู่ในเทลาวิ ซึ่งมีไร่องุ่นและทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาคอเคซัส
พักค้างแรม ณ โรงแรม Lopota Lake Resort & Spa หรือในระดับเดียวกัน
วันที่สี่ จ. 17 พ.ค. 63 เทลาวิ – ป้อมอันนานูรี – สเตพ้านท์สมินด้า (คาซเบกี) – โบสถ์เกอร์เกตี้ |
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ป้อมอันนานูรี ป้อมปราการเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ชมร่องรอยของซากกำแพงที่ล้อมรอบป้อมปราการแห่งนี้ ไว้เปรียบเสมือนม่านที่ซ่อนเร้นความงดงาม ของโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิ้น
ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน จากมุมสูง ของป้อมปราการนี้ จะมองทัศนียภาพที่สวยงามของ อ่างเก็บน้า ชินวารี ที่ซึ่งทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ใช้ และชื่นชมทัศนียภาพทิวทัศน์ของภูเขาล้อมรอบสถานที่แห่งนี้
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ คาซเบกี ซึ่งเป็นชื่อเมืองอันดั้งเดิม แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อ สเตพ้านท์สมินด้า หลังจากนักบุญในนิกายออร์โธด๊อกซ์ ชื่อ สเตฟานได้มาพํานักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สําหรับจําศีล ภาวนาขึ้นมา
เมืองคาซเบกี้ เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ําเทอร์กี้ที่มีความยาว ประมาณ 157 กม. และตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ําทะเลประมาณ 1,740 เมตร ใน ฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิที่อยู่ปานกลางมีความชื้นและแห้งแล้งที่ประมาณ 14.5 องศา เซลเซียส ในฤดูหนาวมีอากาศเย็นและยาวนาน มีอุณหภูมิที่ประมาณ – 5 องศาฯ
แล้วนำท่านเดินทางโดยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ สู่ โบสถ์เกอร์เกตี้ โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ Chkheri ที่ระดับความสูง 2,170 เมตร มีฉากหลังเป็นเทือกเขาของคาซเบกีที่งดงาม ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 หรือมีชื่อเรียกกันว่า ทสมิน ดา ซามีบา ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกที่นิยมกันของโบสถ์ศักดิ์แห่งนี้
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
พักค้างแรม ณ โรงแรม Rooms Kazbegi หรือในระดับเดียวกัน
วันที่ห้า จ.18 พ.ค. 63 สเตพ้านท์สมินด้า (คาซเบกี) – นั่งเฮลิคอปเตอร์ – จุดชมวิวกูดาอูรี – มอสเคต้า – วิหารสเวติสโคเวลี – ทบิลิซี |
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
นำท่านสัมผัสประสบการณ์การ นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมทัศนียภาพของสเตพ้านท์สมินด้า (คาซเบกี) และสูดอากาศอันแสนสดชื่นยามเช้าจากมุมสูง
(ใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาที / เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ สามารถโดยสารได้ 5 ท่าน)
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองกูดาอูรี ซึ่งเป็นเมืองสำหรับสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่บริเวณ ที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่พักผ่อนเล่นสกีของชาวจอร์เจียที่จะนิยมมาเล่นในเดือนธันวาคมจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่สวยงามและมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา
นำท่านเยี่ยมชม Russia –Georgia Friendship Monument อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซีย
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองมอสเคต้า ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือ ห่างจาก กรุงทบิลิซีประมาณ 20 กม.ในจังหวัดคาร์ตลี ทางด้านตะวันออกของจอร์เจีย เมืองนี้ นับว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแห่งหนึ่งของประเทศ และในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการปกครองของแคว้นมอสเคต้าและเทียนิตี้ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน เนื่องจากมีโบราณสถานทางด้านประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง จึงได้รับการขึ้น ทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994
จากนั้น นำท่านชม วิหารสเวติสโคเวลี ซึ่งเป็นโบสถ์อีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในบริเวณของมอสเคต้า ที่มีรูปแบบของจอร์เจียออร์โธด๊อกซ์ถูกสร้างขึ้นในราว ศตวรรษที่ 11 โดยมีสถาปัตยกรรมของจอร์เจีย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองทบิลิซี เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา เมืองนี้ถูกสร้างโดยวาคตัง จอร์กาซาลี กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4
นอกจากนั้นเมืองทบิลิซีเป็นศูนย์กลาง การทําอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้ อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม ละปัจจุบันยังมีบทบาทสําคัญในฐานะ ศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Radisson Blu Iveria หรือในระดับเดียวกัน
วันที่หก อ.19 พ.ค. 63 ขึ้นบอลลูนชมเมืองทบิลิซี – ป้อมปราการนาริกาลา – โบสถ์เซนต์ทรีนิตี้ – ย่านเมืองเก่าทบิลิซี |
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
นำท่านขึ้นบอลลูน สัมผัสประสบการณ์การชมทัศนียภาพน่านฟ้าประเทศจอร์เจียยามเช้าตรู่ สูดอากาศอันแสนสดชื่น บนบอลลูนยักษ์ ท่ามกลางท้องฟ้าที่เงียบสงบ ชมความงดงามอันกว้างใหญ่ไพศาลของหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยเนินเขาและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาคอเคซัส ประเทศจอร์เจีย (ใช้ระยะเวลาในการขึ้นบอลลูนเที่ยวชมทัศนียภาพประมาณ รอบละประมาณ 1 ชั่วโมง)
หลังอาหาร นำท่านเยี่ยมชมเมืองทบิลิซี ผ่านชมถนนรุสตาเวลี (Shota Rustaveli Avenue) ถูกตั้งตามชื่อของนักประพันธ์เอกชาวจอร์เจียน Shoto Rustaveli เป็นถนนหลักของเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันอันขวักไขว่ของผู้คน มีบ้านเรือนที่มีเสน่ห์ อาคารสไตล์นีโอคลาสสิก คาเฟ่ และร้านอาหารอยู่สองข้างทาง ผ่านชม โอเปร่าเฮ้าส์ ซึ่งเป็นโรงโอเปร่าที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันออก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1851
โดยสมัยนั้น จอร์เจียยังคงอยู่ภายใต้ จักรวรรดิรัสเซียที่ปกครองโดยซาร์ อาคารสไตล์นีโอ มัวริช แห่งนี้ ค่อนข้างแปลกตา เหมาะกับการถ่ายรูปสวยๆ ผ่านชม จัตุรัสอนุสาวรีย์ภาพ (Liberty Square) สถานที่ตั้งของรูปปั้นนักบุญจอร์ชฆ่ามังกรในปัจจุบัน โดยอดีตเคยเป็นรูปปั้นอนุเสาวรีย์วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำคนสำคัญของรัสเซีย ได้ถูกรื้อถอนออกไปในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1991 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศจอร์เจียเป็นอิสระจากประเทศรัสเซีย
นำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ ป้อมปราการนาริกาลา ให้ท่านได้ชมป้อมปราการโบราณที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เพื่อปกป้องเมือง ในรูปแบบของชูริส ทซิเค อันหมายถึงรูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน โดยชื่อ Nari-Kala เป็นภาษาเปอร์เซียน แปลว่า ป้อมที่ไม่สามารถตีแตก และหลายศึกก็ได้พิสูจน์มาแล้วถึงความแข็งแกร่งของป้อมนาริกาลา นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมกำแพงเมือง และทิวทัศน์เมืองทบิลิซีมุมสูงอันงดงามได้
จากนั้น นำท่านสู่โบสถ์เซนต์ทรีนิตี้ ชมวิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี ที่เรียกกันว่า มหาวิหารซาเมบา (Sameba) เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์โธด๊อกซ์จอร์เจีย ตั้งอยู่ในทบิลิซีเมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1995-2004 และเป็นวิหารที่สูงที่สุด อันดับที่ 3 ของโบสถ์ ออร์โธด๊อกซ์ในโลก
กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นําท่านเดินชม ย่านเมืองเก่า ของเมืองทบิลิซี ซึ่งจะทำท่านได้พบเห็นความสวยงามและสีสันของอาคารบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นโดยผสมผสานกันระหว่างศิลปะของเปอร์เซียและยุโรป ทำให้จอร์เจียมีเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของตะวันตกและตะวันออกในประเทศเดียว ชมโรงอาบน้ำของราชวงศ์ ที่เคยใช้เป็นโรงอาบน้ำของกษัตริย์ในอดีต
นำท่านเดินเล่นที่ตลาด Meiden Barzaar ตลาดใกล้จัตุรัสใจกลางย่านเมืองเก่า มีร้านอาหารชื่อดัง Samikitno อาหารท้องถิ่นจอร์เจีย ที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ จากนั้นนำท่านสู่ ถนนจาน ชาเดอนี่ เป็นถนนคนเดินย่านเมืองเก่าที่เป็นแหล่งศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรม ต่อมาศตวรรษที่ 9 ได้เปลี่ยนชื่อถนนเป็น Chardin Street เพื่อเป็นเกียรติแก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส Jean Chardin
ปัจจุบันถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟมากมาย บริเวณนี้จะมีบ้านเมืองเก่าในแบบทบิลิซีที่โดดเด่น นอกจากด้านอาหารแล้วยังมีพ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของต่างๆ มาวางขายมากมาย ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย
อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งที่ Galleria Mall ศูนย์การค้าใจกลางกรุงทบิลิซีที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ จนถึงเวลานัดหมาย
ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Radisson Blu Iveria หรือในระดับเดียวกัน
วันที่เจ็ด พ.20 พ.ค. 63 ทบิลิซี – ห้าง East Point – อิสตันบูล |
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ห้าง East Point ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ให้เวลาท่านอิสระช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนมมากมาย
อาทิ เช่น ADIDAS, ALDO, BERSHKA, COLUMBIA, CHARLES & KEITH, CONVERSE, H&M, LOREAL, LEVI’S, LOTTO, MANGO, MINI SO, NEW YORKER, SAMSONITE, OVS, POLO, ZARA และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัย
ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานทบิลิซี
17.45 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK383 นำท่านเหินฟ้าสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี
ค่ำ อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
19.10 น. ถึงท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
20.15 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK64 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
วันที่แปด พฤ.21 พ.ค. 63 อิสตันบูล – กรุงเทพฯ |
เช้า อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
09.50 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
อัตราค่าบริการ
อัตราค่าบริการ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ) | |
เดินทางในช่วง | 14 พ.ค. – 21 พ.ค. 63 |
ผู้ใหญ่ท่านละ | 85,900 |
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน | 85,900 |
เด็กอายุ 5-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน มีเตียงเสริม | 81,900 |
เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม | 73,500 |
ผู้ใหญ่ท่านละ | 17,000 |
หมายเหตุ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคา ถ้าจำนวนผู้ใหญ่เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน
- ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
- ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
- กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
อัตราค่าบริการรวม
- ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามระบุในรายการ
- ค่าขึ้นเฮริคอปเตอร์ชมวิวตามระบุในรายการ
- ค่าขึ้นบอลลูนชมวิวตามระบุในรายการ
- ค่าอาหารตามระบุในรายการ
- ค่ารถรับส่งตามรายการ
- ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 3,000,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ วงเงินท่านละ 3,000,000 บาท
- หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจร (เดินทางเป็นหมู่คณะ เดินทางไป-กลับพร้อมกัน)
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
- ค่าภาษีน้ำมัน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบิน ทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
- ค่าขนกระเป๋าท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม
ระเบียบการ และเงื่อนไข:
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทาง กรณีที่มีผู้สำรองการ เดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯ กำหนด (10 ท่านขึ้นไป)
- การสำรองที่นั่ง: บริษัทฯ ขอรับค่ามัดจำสำหรับการจองท่านละ 50,000 บาท โดยกรุณานำเงินเข้าบัญชีธนาคาร แล้วส่งสำเนาใบนำฝากทางแฟกซ์หมายเลข 0-2634-7365 กรณีชำระด้วยเช็ค การจองจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเราได้รับเงินจากการสั่งจ่ายนั้นแล้ว ส่วนที่เหลือโปรดชำระให้ครบถ้วนก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 21 วัน
ข้อมูลบัญชีสำหรับทำการสำรองที่นั่ง
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสีลม ประเภทออมทรัพย์ | |
เลขที่บัญชี 001-2-80809-9 ชื่อบัญชี : นายภูษณุ โลกาศิริวัตร |
ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม ประเภทออมทรัพย์ | |
เลขที่บัญชี 101-8-64952-3 ชื่อบัญชี : นายภูษณุ โลกาศิริวัตร |
3. กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 14 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
4. บริษัทฯรับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาต ให้ผู้เดินทางออกหรือเข้าประเทศ บริษัทฯไม่สามารถคืนค่าทัวร์ให้
5. ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ หากท่านไม่ใช้บริการใด ๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถขอคืนค่าบริการได้
6. หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ ไม่สามารถนำมาขอคืน (Refund) ได้
การยกเลิก
- กรณียกเลิกการจองน้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการคืนเงินมัดจำทั้งหมด
- กรณีแจ้งยกเลิกภายใน 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิในการคืนค่าทัวร์ 50% ของราคาเต็มเท่านั้น
- กรณีแจ้งยกเลิกการจองภายใน 15 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิในการคืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
หมายเหตุ
- บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากเหตุสุดวิสัย เช่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงาน การก่อการจลาจล ความล่าช้าของเที่ยวบิน การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกหรือเข้าประเทศ เป็นต้น
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยวตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรม และสภาวะทางการเมืองโดยถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการออกนอกประเทศ ห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น การนำสิ่งของผิดกฎหมาย เอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง และความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย