- DAY 1-2
- DAY 3
- DAY 4
- DAY 5
- DAY 6-7
- เงื่อนไขและค่าบริการ
1
พฤ. 19 ต.ค. 66
กรุงเทพฯ – อิสตันบูล
20.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้นที่ 4 ประตูที่ 9 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์
แถว U เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพรส รอต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก 22.55 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK69 นำท่านเหินฟ้าสู่ อิสตันบูล ประเทศ ตุรกี
แถว U เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพรส รอต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก 22.55 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK69 นำท่านเหินฟ้าสู่ อิสตันบูล ประเทศ ตุรกี
2
ศ. 20 ต.ค. 66
อิสตันบลู – มอลต้า – วัลเลตตา – พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งชาติฟอร์ตเซนต์เอลโม – ป้อมเซนต์เอลโม – มหาวิหารเซนต์จอห์น – สวนบาร์รักก้า – ล่องเรือประมงพื้นเมือง – เซนต์จูเลียนส์
เช้า
05.10 น. ถึงท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศ ตุรกี
แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง (ใช้เวลารอเปลี่ยนเครื่อง โดยประมาณ 3.10 ชม.)
08.20 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1369 นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานลูค่า ประเทศมอลต้า
อาหารเช้าบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
09.45 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติมอลต้า ประเทศมอลต้าหลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านสู่เมือง วัลเลตตา (Valletta) เมืองหลวงแห่งประเทศมอลต้า ถูกสร้างขึ้นโดยอัศวินแห่งเซนต์จอห์น หลังการโจมตีครั้งใหญ่โดยออตโตมานในปี ค.ศ.1565 เป็นเมืองที่มีป้อมปราการที่กล่าวกันว่า “สร้างโดยสุภาพบุรุษเพื่อสุภาพบุรุษ” และมีอนุสาวรีย์มากกว่า 320 แห่งในรัศมี 400 เมตร เป็นเมืองหลวงแบบบาโรก และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปี ค.ศ. 2018
นับว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากเมืองหนึ่งของยุโรป เนื่องจากการผสมผสานที่ลงตัวของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่มีชีวิตชีวา
จากนั้น นำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งชาติฟอร์ตเซนต์เอลโม (National War Museum – Fort St Elmo) และ ป้อมเซนต์เอลโม (St. Elmo Heritage Building) ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นในทำเลยุทธศาสตร์เพื่อเผชิญหน้าและยับยั้งการโจมตีของออตโตมันที่คุกคาม และยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของมอลต้าตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
<
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านชมความงดงามของ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Saint John’s Co-Cathedral)
ที่สร้างโดย อัศวิน เซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและงดงาม แสดงให้เห็นถึงอำนาจของคริสต์ศาสนาในสมัยนั้น
จากนั้น นำท่านชม สวนบาร์รักก้า (Barracca) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี ค.ศ.1824
ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper Barracca นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน
จากนั้น นำท่านชมบริเวณท่าเรือของเมืองจะมีบรรดาเรือประมงพื้นเมือง (Luzzus) จอดอยู่มากมาย หลากหลายสีสัน และรูปทรงของเรือที่สวยงาม
ซึ่งหากลองสังเกตที่บริเวณด้านหน้าของเรือทุกลำ จะมีตาสองดวงแปะอยู่ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นดวงตาขอผู้พิทักษ์ Eye of Horus or Of Osiris ที่จะคอยสอดส่องคุ้มครองให้ไม่ได้เกิดภัยอันตรายกับชาวประมงขณะเดินเรือ
แล้วนำท่าน ล่องเรือประมงพื้นเมือง ชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่ง ทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน
3
ส. 21 ต.ค. 66
เซนต์จูเลียนส์ – เกาะโกโซ – วิหารทาพินู – ป้อมปราการวิคตอเรีย – วิหารวิกตอเรีย – วิหารเซนต์จอร์จ – เกาะโคมิโน – ล่องเรือเกาะโคมิโน – บลูลากูน – เซนต์จูเลียนส์
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ เกาะโกโซ (Gozo Island) หรือ เกาะแห่งคาลิปโซ่ ซึ่งเป็นเกาะที่งดงามทางธรรมชาติ ที่มีชายฝั่งคดเคี้ยวอันงดงามเหมาะแก่การมาพักผ่อน อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
เกาะนี้ได้รับฉายาว่าเป็นเกาะน้องสาวของมอลต้า ที่มีทิวทัศน์อันสวยงามไม่ต่างจากพี่สาว เกาะนี้ มีประชากรเพียง 40,000 คน แต่พบว่ามีภาษาถิ่นที่ใช้ทั้งหมดเกือบ 11 ภาษา
นำท่านเดินทางสู่ วิหารทาพินู (Ta’ Pinu Basilica) เป็นวิหารที่มีความสวยงาม มีสถาปัตยกรรมแบบโรมันคาธอ-ลิก ตั้งอยู่บริเวณใกล้หน้าผาบนเกาะโกโซ
ในอดีตที่นี่เป็นเพียงโบสถ์หินขนาดเล็กในยุคศตวรรษที่ 15 และต่อมาได้ถูกต่อเติมและสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1922-1932 แบบสไตล์นีโอโรแมนติก อิสระให้ท่าถ่ายรูปตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ราบัต (Rabat) หรือ วิกตอเรีย (Victoria) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในเกาะโกโซ และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองแห่งมรดกโลกในปี ค.ศ. 1980 อีกด้วย
ที่นี่เปรียบเสมือนแหล่งรวมของอารยธรรมโบราณอย่างแท้จริง ตั้งแต่สมัยที่ถูกปกครองโดยโรมัน ชาวอาหรับ ชาวนอร์มัน ตลอดมาจนถึงศตวรรษที่ 17 ที่อัศวินเซนต์จอห์นได้สร้าง ป้อมปราการสีเหลืองทอง ชื่อ ป้อมปราการวิคตอเรีย (Victoria Fortress) ขึ้น
นอกจากนี้ยังมีวิหารชื่อดังอย่าง วิหารวิกตอเรีย (Cathedral of the Assumption) และ วิหารเซนต์จอร์จ (St.George’s Basilica Victoria) ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ด้วยเช่นกัน พาท่านเที่ยวชมจนถึงเวลาอันสมควร
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ ล่องเรือชมความสวยงาม เกาะโคมิโน (Comino) ที่ตั้งของ บลูลากูน (Blue Lagoon) สถานที่ชื่อดังที่ใครๆ ก็ต้องอยากมาเห็นน้ำที่ใสแจ๋วราวกับกระจกกับตา
ในอดีต เกาะโคมิโนเคยเป็นคุกคุมขังนักโทษมาก่อน แต่ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นเขตอนุรักษ์พืชพันธุ์ธรรมชาติ ที่นี่จึงมีความเงียบสงบ
จากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่ เซนต์จูเลียนส์ และนำท่านสู่โรงแรมที่พัก
4
อา. 22 ต.ค. 66
เซนต์จูเลียนส์ – ป๊อปอายวิลเลจ – เมลลิฮา – จุดชมวิว Fomm Ir-Rih – จุดชมวิว Il-Blata tal-Melh – หน้าผาดิงลี – เมดิน่า
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ป๊อปอายวิลเลจ (Popeye Village) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sweethaven Village ให้ท่านได้ชมวิวและถ่ายรูปกับหมู่บ้านที่จำลองขึ้นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เพลงเรื่อง Popeye แสดงนำโดย โรบิน วิลเลียมส์ ในปี ค.ศ. 1980 จากนั้นได้รับการดัดแปลงให้เป็นสวนสนุกเล็กๆ ที่น่าดึงดูดใจ ด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆ แบบชนบท ริมทะเล
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมลลิฮา (Mellieha) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูป และเดินเล่นตามอัธยาศัย ที่ Perish Church of Mellieha ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1881 และ 1898
แล้วนำท่านสู่ จุดชมวิว Fomm Ir-Rih ตั้งอยู๋ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมอลต้า เป็นจุดชมวิวที่เป็นลักษณะของหน้าผาสูง มองลงมาเห็นท้องทะเลสีฟ้าคราม
จากนั้น เดินทางสู่ จุดชมวิว Il-Blata tal-Melh อิสระให้ท่านเดินเล่น และถ่ายรูป ตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านชมทิวทัศน์อันงดงามของ หน้าผาดิงลี (Dingli Cliff) ซึ่งเป็นหน้าผาที่สูงที่สุดของหมู่เกาะมอลด้า ที่ความสูง 253 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งนับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากที่สุดจุดหนึ่ง ในมอลต้า ที่สามารถมองเห็นทุ่งหญ้าด้านล่าง ทะเล และเกาะที่เคยถูกใช้เป็นเป้าในการยิงซ้อมรบสมัยสงครามโลก ครั้งที่สอง
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม The Westin Dragonara Resort หรือในระดับเดียวกัน
5
จ. 23 ต.ค. 66
เมดิน่า – ถ้ำบลูกร็อตโต้ – เมดิน่า
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านกลับสู่เมือง เมดิน่า (Mdina) นำท่านเดินชมเมืองหลวงเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มากมายที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยียนเป็นอย่างยิ่ง
เมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งความเงียบ” (The Silent City) เพราะเป็นเมืองที่เล็ก และมีประชากรกว่า 300 คนเท่านั้น จากนั้น นำท่านเดินเที่ยมชมเมือง และเก็บภาพที่ประตูทางเข้าเมืองที่เคยเป็นฉากประกอบภาพยนตร์ Game of Thrones
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม The Westin Dragonara Resort หรือในระดับเดียวกัน
6
อ. 24 ต.ค. 66
เมดิน่า – โบสถ์มอสต้าโดม – พลาลาซโซ พาริซิโอ – เบย์สตรีท – ท่าอากาศยานมอลต้า – อิสตันบลู
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชม โบสถ์มอสต้าโดม (Mosta Rotunda or Mosta Dome) ที่ไม่ได้เป็นเพียงโบสถ์ แต่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วย การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1833 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1860 โดยจำลองแบบมาจากมหาวิหารแพนธีออนในกรุงโรม
ซึ่งโดมของโบสถ์ มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และโบสถ์เซนต์พอลส์ในกรุงลอนดอน
จากนั้น นำท่านสู่ พลาลาซโซ พาริซิโอ (Palazzo Parisio) ซึ่งขุนนาง Giuseppe Scicluna ได้ซื้อวังแห่งนี้ในปี ค.ศ 1898 และทำให้ที่นี่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ และอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ในสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม
ขุนนาง Scicluna เป็นนายธนาคารและพ่อค้าชาวมอลต้าผู้มั่งคั่ง เขาได้ทำให้วังแห่งนี้เป็นตัวแทนของงานศิลปะของมอลต้า ผสมผสานความเป็นศตวรรษที่ 19 และผลงานของศิลปินชาวอิตาลี ทำให้สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกที่ น่าภาคภูมิใจ
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านสู่ เบย์สตรีท (Bay Street) ถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ใจกลางประเทศมอลต้า ซึ่งเป็น แหล่งรวบรวมแฟชั่นชื่อดังของดีไซน์เนอร์ต่าง ๆ อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย
16.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานมอลต้า
19.10 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1372 นำท่านเดินทางสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี
22.35 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ อิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง (ใช้เวลารอเปลี่ยนเครื่อง
โดยประมาณ 3.10 ชม.)
โดยประมาณ 3.10 ชม.)
7
พ. 25 ต.ค. 66
กรุงเทพฯ
01.45 น. โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK68 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพ ฯ
15.25 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
Malta Undiscovered Paradise Surprise!
7 วัน 4 คืน โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์(TK)
19 – 25 ตุลาคม 2566
อัตราค่าบริการ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
จำนวนผู้เดินทาง ผู้ใหญ่ ขั้นต่ำต่อ 1 รถบัส
10 ท่านขึ้นไป
ราคาค่าบริการทัวร์ ท่านละ
109,900 บาท
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
23,500 บาท
หมายเหตุ
– ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
– ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
– บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคา หากจำนวนผู้ใหญ่เดินทางต่ำกว่าที่กำหนดไว้จากตารางข้างต้น
– กรณีผู้เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 20,000 บาท โดยประมาณ
(ซึ่งผู้เดินทางจะต้องไม่น้อยกว่า 10 ท่าน)
ค่าบริการรวม
– ค่ารถรับส่งตามรายการ
– ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ และกิจกรรมตามรายการ
– ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
– ค่าอาหาร ตามรายการ
– ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว
– ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
– ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
– หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
– ค่าทิปคนขับรถ
– Internet Sim Card สำหรับใช้ในประเทศยุโรป 1 ซิมต่อท่าน
– ขนม และของว่างบริการระหว่างเดินทาง
– ของพรีเมี่ยม (Universal Travel Adapter, WST Shopping Bag)
ค่าบริการไม่รวม
– ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
– ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
– ค่าภาษีน้ำมันซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบิน ทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
– ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม